หลักการสร้างแบรนด์ของตัวเอง แบบไม่ฝากอนาคตไว้ที่ Marketplace
หลายคนเข้าใจว่าเป้าหมายของการทำการตลาดออนไลน์คือการขายให้ได้ ซึ่งไม่ผิด แต่ถ้าคุณเป็นคนทำธุรกิจจริง ๆ จะรู้ว่า ยอดขายแรกเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเส้นทางระยะยาวที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะในยุคที่ลูกค้าเต็มไปด้วยตัวเลือกเช่นนี้ การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ว่าใครขายก่อน แต่อยู่ที่ใครทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้มากกว่าต่างหาก
แน่นอนว่าการขายของบน Marketplace อาจช่วยให้คุณได้ลูกค้าใหม่ในวันนี้ แต่ถ้าพรุ่งนี้พวกเขาไม่กลับมา ธุรกิจคุณก็ต้องวนกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งทุก ๆ วัน คำถามคือ จะดีกว่าไหมถ้ามีระบบที่ทำให้ทุกคลิก ทุกคำสั่งซื้อ และทุกการแนะนำเพื่อน สามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า (Long-term Relationship) ได้โดยอัตโนมัติ
ทำไมการพึ่ง Marketplace อย่างเดียวอาจทำให้การสร้างแบรนด์ของคุณโตได้ไม่สุด ?
ค่าคอมมิชชันสูงถึง 20-30%
ต้นทุนสำคัญที่หลายคนมองข้ามเมื่อขายของผ่าน Marketplace คือ “ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชัน” โดยบางแพลตฟอร์มอาจเก็บส่วนแบ่งสูงถึง 30% จากยอดขายทั้งหมด ทำให้กำไรต่อชิ้นลดลง ส่งผลกระทบต่อการลงทุนพัฒนาสินค้าหรือการตลาดในอนาคต
ไม่ได้ข้อมูลลูกค้าไปใช้ต่อ
หนึ่งในข้อจำกัดที่ชัดเจนของ Marketplace คือ การที่เจ้าของร้านไม่ได้ข้อมูลลูกค้าโดยตรง ทั้งอีเมล เบอร์โทร หรือพฤติกรรมการซื้อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คือทรัพยากรสำคัญที่สามารถนำไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรม สื่อสารโปรโมชัน หรือสร้างแคมเปญการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระยะยาวได้
ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้
การขายของผ่าน Marketplace ไม่ถือเป็นหลักการสร้างแบรนด์โดยตรง เพราะเปรียบเสมือนการ “ฝากร้าน” ไว้ในพื้นที่ของคนอื่นมากกว่า ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าถูกจำกัด ไม่สามารถนำเสนอเรื่องราวหรือสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ได้
ลูกค้าเปลี่ยนใจไปซื้อเจ้าอื่นได้ง่าย เพราะไม่มีความผูกพันกับแบรนด์
เมื่อไม่มีความแตกต่างในแง่ของประสบการณ์หรือคุณค่า ลูกค้าใน Marketplace จึงจะเปรียบเทียบราคาก่อนเป็นอันดับแรก และสามารถตัดสินใจซื้อจากร้านอื่นได้ทันทีหากราคาถูกกว่า นี่คือจุดเสี่ยงของการสร้างแบรนด์ที่ยังไม่มี “ตัวตน” ชัดเจน
Loyalty Program คืออะไร แล้วทำไมร้านค้าสมัยนี้ต้องมี ?
ในโลกของการสร้างแบรนด์ที่มีการแข่งขันสูง การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังและได้รับความนิยมอย่างมากในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ คือ “Loyalty Program” หรือโปรแกรมสะสมแต้มและสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าประจำ
ลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ (CAC)
การหาลูกค้าใหม่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่าถึง 5 เท่า การลงทุนใน Loyalty Program ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ จึงช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่อย่างเห็นได้ชัด
พิ่มยอดสั่งซื้อเฉลี่ยต่อคน (AOV)
ลูกค้าที่มีความผูกพันกับแบรนด์ และรู้สึกว่า “ยิ่งซื้อยิ่งคุ้ม” จะมีแนวโน้มสั่งซื้อสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น การออกแบบระบบสะสมแต้ม หรือโปรโมชันพิเศษเฉพาะสมาชิก จึงช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเพิ่มโดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียดขาย
ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ (Repeat Purchase)
เป้าหมายสำคัญของขั้นตอนการสร้างแบรนด์ คือ การสร้างฐานลูกค้าประจำ และ Loyalty Program ก็นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยล็อกใจลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ผ่านรางวัลหรือสิทธิพิเศษที่มีมูลค่าทางจิตใจและธุรกิจ
เพิ่มการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth Marketing)
ลูกค้าที่ประทับใจในประสบการณ์ของแบรนด์และได้รับสิทธิประโยชน์ที่แท้จริงจาก Loyalty Program จะกลายเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์แบบไม่รู้ตัว การบอกต่อในลักษณะนี้มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าการโฆษณาแบบเดิม และช่วยขยายฐานลูกค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า
EverydayCustomer ทางออกของธุรกิจยุคใหม่ All-in-One Commerce & Loyalty Platform
ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์ต้องเผชิญกับต้นทุนค่าคอมมิชชันจาก Marketplace สูงถึง 20-30% และไม่มีสิทธิ์ในข้อมูลลูกค้า การสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของหลักการสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
EverydayCustomer คือ แพลตฟอร์ม All-in-One ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ SME ไทยเปลี่ยนจากการพึ่ง Marketplace มาเป็นการบริหารร้านค้าผ่านช่องทางของตนเอง โดยรวมเครื่องมือสำคัญของธุรกิจไว้ครบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น
- เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ UX-first สร้างหน้าร้านออนไลน์ที่ใช้งานง่าย พร้อมระบบจัดการสต๊อก คูปอง และออร์เดอร์ครบถ้วน
- ระบบสะสมแต้มแบบ Tier และ Subscription กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อซ้ำ และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ผ่านระบบสมาชิกที่ปรับแต่งได้เอง
- ระบบเชื่อม LINE, Facebook, IG, TikTok รวมทุกช่องทางโซเชียลไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ตอบโจทย์ Omnichannel Commerce
- Referral Program ให้ลูกค้าแนะนำเพื่อนผ่านลิงก์หรือ QR Code และรับส่วนลดหรือของรางวัลแบบกำหนดเองได้
- AI เขียนคอนเทนต์ SEO อัตโนมัติ ลดเวลาทำคอนเทนต์ด้วย AI ผู้ช่วยที่เขียนบทความ โปรโมชัน และข้อมูลสินค้าให้อัตโนมัติ
- Checkout หน้าเดียว เพิ่มยอดสั่งซื้อ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพิ่ม Conversion ด้วยระบบชำระเงินแบบ One-page ที่รองรับ QR และบัตรเครดิต
- ระบบเชื่อมต่อออฟไลน์-ออนไลน์ พร้อมเก็บข้อมูลลูกค้า สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ตั้งแต่หน้าร้านจนถึงโลกออนไลน์ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำ
ในวันที่ยอดขายไม่ใช่แค่ตัวเลขใน Dashboard แต่คือศักยภาพของความสัมพันธ์ระยะยาว ธุรกิจที่เติบโตอย่างแท้จริงจึงไม่ใช่ธุรกิจที่ขายเก่ง แต่คือธุรกิจที่เข้าใจลูกค้าและดึงดูดให้พวกเขากลับมาเอง เพราะความยั่งยืนไม่ได้เกิดจากการวิ่งไล่ตามลูกค้าใหม่ทุกวัน แต่เกิดจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าเดิม ด้วยระบบสมาชิกที่ใช้งานง่าย ระบบสะสมแต้มที่มีแรงจูงใจ และการบอกต่อที่คุ้มค่าทั้งผู้ซื้อและผู้แนะนำ
และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ EverydayCustomer สร้างขึ้นเพื่อเป็น Tech Solution สำหรับธุรกิจยุคใหม่ แพลตฟอร์มที่ไม่เพียงแค่ให้คุณมีเว็บไซต์ขายของ แต่ให้คุณ “มีระบบความสัมพันธ์กับลูกค้า” ที่สร้างผลกำไรในระยะยาว
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะสร้างยอดขายที่ไม่หายไปในอากาศ และความภักดีที่ไม่จบแค่การสั่งซื้อครั้งแรกเหมือนอย่างที่ผ่านมา ติดต่อเรา โทร. 095 592 5663 เพื่อทดลองใช้ EverydayCustomer ได้เลยวันนี้
Loading...