< Back

รวมลิสต์ 16 AI Customer Service Platform ที่ช่วยยกระดับ CX

AD
โดย:Jenosize.com
share11

รวม 16 AI Customer Service ที่ธุรกิจควรรู้จักเพื่อยกระดับ CX


การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience: CX) กลายเป็นปัจจัยที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญ เพราะลูกค้ายุคดิจิทัลไม่ได้มองหาเพียงสินค้าและบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังคาดหวังการตอบสนองที่รวดเร็ว แม่นยำ และสอดคล้องกับความต้องการแบบเฉพาะบุคคล การนำ AI Customer Service Platform หรือแพลตฟอร์ม AI บริการลูกค้าเข้ามาเสริมทัพจึงเป็นกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจเลือกใช้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดและเพิ่มความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) ในระยะยาว



16 AI Customer Service Platform ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม


1. HelloJenie

HelloJenie เป็น AI Customer Service Platform ที่พัฒนาโดยเจโนไซส์ จุดเด่นคือการเป็นผู้ช่วย AI ประจำทีม ที่ไม่ใช่เพียงแค่แชตบอต AI บริการลูกค้าทั่วไป แต่ทำหน้าที่เป็น AI Agent ที่เข้าใจงานจริงขององค์กร


HelloJenie สามารถช่วยทีมงานทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟีเจอร์สำคัญต่อไปนี้


  • ถาม-ตอบได้ในแชตทันที เข้าใจภาษาไทยลึกซึ้ง สามารถค้นหาคำตอบจากไฟล์งานหรือ SOP ได้เหมือนคุยกับเพื่อนร่วมทีม
  • คิดแทน เขียนแทน ประหยัดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการร่างอีเมล สรุปประชุม หรือเขียนโพสต์ ก็สามารถทำตามโทนเสียงของแบรนด์
  • สรุปให้ ติดตามให้อัตโนมัติ ลดปัญหางานตกหล่น ด้วยระบบที่สรุปบทสนทนาและสร้าง To-do list ได้ทันที
  • เชื่อมต่อกับ LINE ได้ง่าย เพียงเพิ่มเป็นเพื่อนหรือเชิญเข้ากลุ่ม LINE ก็เริ่มต้นใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งระบบใหม่


ทดลองใช้ HelloJenie ได้ที่ LINE: @hellojenie


2. Zendesk AI

Zendesk เป็นแพลตฟอร์ม AI บริการลูกค้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยมี Zendesk AI เข้ามาช่วยเพิ่มความฉลาดให้กับระบบ ตั้งแต่การจัดการ Ticket อัตโนมัติ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับ Agent แบบ Hybrid AI นอกจากนี้ ระบบ AI บริการลูกค้ายังสามารถวิเคราะห์ข้อความเพื่อจัดหมวดหมู่ปัญหา และแนะนำวิธีแก้ที่เหมาะสมให้ทีมงานทันที อีกทั้งยังช่วย Agent ตอบกลับลูกค้าอย่างรวดเร็วขึ้น ลด Human Error และทำให้เวลาการแก้ปัญหา (Resolution Time) สั้นลง เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการยกระดับการบริการให้เป็นมาตรฐานสากล


ทดลองใช้ Zendesk AI ได้ที่ https://www.zendesk.com/free-trial/


3. Intercom

Intercom โดดเด่นด้าน Conversational Support ที่ผสานระบบ AI บริการลูกค้าและการทำงานแบบเรียลไทม์เข้าด้วยกัน Resolution Bot ของ Intercom สามารถแก้ไขปัญหาทั่วไปได้ทันที เช่น การ Reset Password หรือการตอบ FAQ โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ ทำให้ลูกค้าได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน AI ยังช่วยทีมงานใน Back-end โดยแนะนำ Macro, Template และการตอบสนองที่สอดคล้องกับ Tone of Voice ของแบรนด์ เหมาะสำหรับธุรกิจ SaaS, FinTech และ E-commerce ที่ต้องการลดภาระงานซ้ำซ้อน


ทดลองใช้ Intercom ได้ที่ https://www.intercom.com/get-started


4. Freshdesk (Freshchat + Freddy AI)

Freshdesk แพลตฟอร์ม AI บริการลูกค้าที่พัฒนาโดย Freshworks มาพร้อม Freddy AI ที่ทำงานร่วมกับ Freshchat เพื่อมอบประสบการณ์แบบ Self-service ลูกค้าสามารถหาคำตอบได้เองทันที นอกจากนี้ Freddy AI ยังใช้ Machine Learning เรียนรู้จากเคสเก่า ทำให้คำตอบแม่นยำขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์ว่าคำถามแบบใดควรส่งต่อเจ้าหน้าที่ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการลดภาระทีมงาน และเน้นการให้บริการหลายช่องทางพร้อมกัน


ทดลองใช้ Freshdesk ได้ที่ https://freshdesk.com/signup


5. Genesys

Genesys เป็น Contact Center Platform ที่ครอบคลุมทั้ง Voice, Chat และ Omnichannel โดยมี AI เป็นหัวใจสำคัญ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมคาดการณ์ Next Best Action ที่ทีมงานควรทำเพื่อเพิ่มโอกาสปิดการขาย ระบบยังสามารถเชื่อมต่อกับ CRM หลักอย่าง Salesforce หรือ Microsoft Dynamics เพื่อสร้าง Journey ที่ต่อเนื่อง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบ Contact Center ระดับ Enterprise


ทดลองใช้ Genesys ได้ที่ https://www.genesys.com/


6. LivePerson

LivePerson เป็นแชตบอต AI บริการลูกค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Conversational AI และการทำงานบน Messaging Platform ระบบช่วยธุรกิจออกแบบ Conversation Flow ทั้งแบบ Text และ Voice ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนคุยกับพนักงานจริง ๆ ที่สำคัญ AI ยังสามารถปรับบทสนทนาตาม Journey ของลูกค้า เช่น ขั้นตอนการซื้อสินค้า การชำระเงิน หรือการขอความช่วยเหลือ เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีปริมาณลูกค้าจำนวนมาก เช่น Telco, Finance และ Retail


ทดลองใช้ LivePerson ได้ที่ https://www.liveperson.com/request-demo


7. Ada

Ada ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็น AI Self-service Platform ที่ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาเองได้ทันที โดยไม่ต้องรอ Agent มีระบบ AI บริการลูกค้าที่สามารถปรับแต่งบทสนทนาได้ตามอุตสาหกรรม เช่น Banking, E-commerce หรือ Travel ทำให้ลดค่าใช้จ่ายด้าน Customer Support ลงได้มาก นอกจากนี้ Ada ยังมีจุดเด่นที่ไม่ต้องใช้ทีม Technical มากในการตั้งค่า จึงเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งาน AI อย่างรวดเร็ว


ทดลองใช้ Ada ได้ที่ https://www.ada.cx/


8. Tidio AI

Tidio เป็น AI Customer Service Platform ที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับ SME และธุรกิจ E-commerce ขนาดเล็ก-กลาง สามารถเชื่อมต่อกับ Shopify, WooCommerce และ WordPress ได้สะดวก มาพร้อมฟีเจอร์ AI Reply ตอบคำถามอัตโนมัติ และระบบ Recommendation Engine ที่ช่วยแนะนำสินค้า ทำให้เพิ่มยอดขายได้จริง ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการแชตบอต AI บริการลูกค้าที่คุ้มค่าและติดตั้งง่าย


ทดลองใช้ Tidio ได้ที่ https://www.tidio.com/


9. ServiceNow

ServiceNow เป็นส่วนหนึ่งของ IT Service Management (ITSM) และ HR Service Delivery โดยองค์กรสามารถใช้ AI ตอบคำถามเกี่ยวกับระบบ IT การขอ Reset Account หรือ HR Policy ได้ทันที ลดภาระทีมซัปพอร์ตภายในองค์กร เหมาะสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก และต้องการ Workflow Automation


ทดลองใช้ ServiceNow ได้ที่ https://www.servicenow.com/


10. Drift

Drift ไม่ใช่แค่แชตบอต AI บริการลูกค้า แต่เป็น Conversational Marketing Platform ที่เน้น B2B โดย AI จะช่วยวิเคราะห์ Intent ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ และแนะนำทีมขายเข้ามาพูดคุยต่อแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสร้าง Lead ที่มีคุณภาพสูงและปิดการขายได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่ใช้ Inbound Marketing เป็นหลัก


ทดลองใช้ Drift ได้ที่ https://www.drift.com/demo/


11. ChatGPT API

ChatGPT API ของ OpenAI ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างแชตบอต AI บริการลูกค้าที่เข้าใจภาษาธรรมชาติ (NLP) ได้อย่างลึกซึ้ง โดยสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับข้อมูลขององค์กร เช่น Product Manual, FAQ หรือ Policy เพื่อให้การตอบกลับแม่นยำและใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ Customize ระบบ AI บริการลูกค้าของตนเอง


ทดลองใช้ ChatGPT API ได้ที่ https://platform.openai.com/docs/overview   


12. Kustomer

Kustomer เป็นแพลตฟอร์ม CRM ที่ออกแบบมาเพื่อ Customer Service โดยเฉพาะ มีจุดเด่นคือ Unified Timeline ที่รวมทุก Interaction ของลูกค้าเอาไว้ในหน้าเดียว แล้วแพลตฟอร์ม AI บริการลูกค้าตัวนี้จะช่วย Agent ตัดสินใจและแนะนำวิธีตอบสนองให้เหมาะสมกับบริบท เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเก็บภาพรวมของ Customer Journey แบบครบถ้วน


ทดลองใช้ Kustomer ได้ที่ https://www.kustomer.com/demo/


13. Zoho Desk

Zoho Desk มีฟีเจอร์ Zia ซึ่งเป็น AI Assistant ที่สามารถจัดลำดับความสำคัญของ Ticket คาดการณ์ความพึงพอใจลูกค้า และแนะนำคำตอบที่แม่นยำ โดยมีจุดเด่นคือราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-กลางที่ต้องการเริ่มต้นใช้ AI Customer Service Platform


ทดลองใช้ Zoho Desk ได้ที่ https://www.zoho.com/desk/signup.html


14. Re:amaze

Re:amaze เป็นแพลตฟอร์ม AI บริการลูกค้าที่รวม Live Chat, Email และ Social Media Messaging ในระบบเดียว โดย AI จะช่วยจัดการ Automation Rule เช่น ตอบข้อความนอกเวลาทำการ หรือ Routing เคสไปยังทีมที่เกี่ยวข้อง เหมาะสำหรับ E-commerce ที่ต้องการรวมการบริการลูกค้าไว้ในจุดเดียว

ทดลองใช้ Re:amaze ได้ที่ https://www.reamaze.com/new_user


15. Helpshift

Helpshift โดดเด่นด้าน In-App Support โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกมและ Mobile App ลูกค้าสามารถขอความช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชัน ระบบ AI บริการลูกค้าจะช่วยตอบคำถามพื้นฐาน และส่งต่อเคสซับซ้อนให้ Agent เหมาะสำหรับธุรกิจดิจิทัลที่ต้องการมอบ CX ที่ไร้รอยต่อ


ทดลองใช้ Helpshift ได้ที่ https://www.helpshift.com/


16. Netomi

Netomi เป็น AI Customer Service Platform ที่ใช้ Machine Learning ขั้นสูง สามารถแก้ปัญหาลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงการตอบสนองอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Zendesk, Salesforce, Freshdesk ได้อย่างราบรื่น เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ End-to-End Automation


ทดลองใช้ Netomi ได้ที่ https://www.netomi.com/request-demo



ทำไมองค์กรควรลงทุนใน AI Customer Service วันนี้ ?


ตอบสนองแบบเรียลไทม์ ลดเวลารอคอยของลูกค้า

AI Customer Service Platform สามารถตอบคำถามได้ทันทีแบบ 24/7 ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อผ่านช่องทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันมือถือ ช่วยลดความหงุดหงิดของลูกค้า รวมถึงเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจ E-commerce หรือ Retail ที่ลูกค้าต้องการคำตอบในขณะที่กำลังตัดสินใจซื้อ


ลดภาระทีมบริการลูกค้า โดยให้ AI รับเรื่องเบื้องต้นก่อน

ระบบ AI บริการลูกค้าทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการรับมือกับปริมาณคำถามจำนวนมาก เช่น การติดตามสถานะการสั่งซื้อ การเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือคำถามที่ซ้ำ ๆ ในทุกวัน การที่ AI สามารถจัดการเรื่องเบื้องต้นได้ จะช่วยให้ทีมงาน Customer Support มีเวลามากขึ้นในการโฟกัสกับเคสที่ซับซ้อนหรือเคสที่ต้องใช้ทักษะการแก้ปัญหาของมนุษย์ ส่งผลให้ทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการเพิ่มขึ้น


ยกระดับความพึงพอใจ (CSAT) ด้วยคำตอบที่แม่นยำ

แชตบอต AI บริการลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ตอบเพียงข้อความแบบอัตโนมัติ แต่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตของลูกค้าได้ด้วย เช่น ประวัติการซื้อ พฤติกรรมการใช้งาน และความสนใจเฉพาะบุคคล AI จึงสามารถสื่อสารได้อย่าง Personalize มากขึ้น เช่น การแนะนำสินค้า การส่งโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล หรือการเลือกภาษาที่ลูกค้าคุ้นเคย สิ่งนี้ทำให้ Customer Experience โดยรวมดีขึ้น และช่วยเพิ่มค่า Customer Satisfaction Score (CSAT) อย่างชัดเจน


รวบรวม Insight แบบอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทาง

นอกจากจะช่วยตอบลูกค้าแล้ว AI Customer Service Platform ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดย AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายช่องทาง (Omnichannel) เช่น Email, Social Media, Live Chat และ Call Center ข้อมูลเหล่านี้จะถูกแปลงเป็น Insight ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และ Pain Point ของลูกค้า ทำให้สามารถนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์การตลาด การพัฒนาสินค้า และการสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

 

Case Study: Sephora ผู้นำด้าน CX ที่ใช้ AI ได้อย่างมืออาชีพ


Sephora ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ค้าปลีกเครื่องสำอางระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับ Customer Experienceมาโดยตลอด โดยเฉพาะการใช้ AI Customer Service เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิงที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น


หนึ่งในกลยุทธ์หลักคือการใช้ AI Chatbot บน Facebook Messenger ซึ่งทำงานเสมือน Beauty Assistant ลูกค้าสามารถสอบถามเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว หรือแม้แต่จองบริการแต่งหน้าในสาขาใกล้บ้านได้โดยตรงในแชต การตอบกลับแบบเรียลไทม์ช่วยลดภาระงานของทีมพนักงาน พร้อมทั้งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุก Interaction


นอกจากนี้ Sephora ยังพัฒนา Recommendation Engine ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการซื้อของลูกค้าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นโทนสีผิว ผลิตภัณฑ์ที่เคยเลือกใช้ หรือความสนใจเฉพาะตัว เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงใจที่สุดแบบ Personalization เช่น การแนะนำลิปสติกเฉดใหม่ที่เหมาะกับสไตล์ของลูกค้า หรือการนำเสนอโปรโมชันที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อจริง


สิ่งที่ทำให้ Sephora ประสบความสำเร็จ คือ การผสมผสานระบบ AI บริการลูกค้าเข้ากับกลยุทธ์ Omnichannel ได้อย่างลงตัว ลูกค้าไม่ว่าจะเข้ามาในช่องทางออนไลน์หรือหน้าร้าน จะได้รับประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันเสมอ ผลลัพธ์คือการเพิ่ม Customer Satisfaction และสร้าง Brand Loyalty ได้อย่างยั่งยืน

 

AI Customer Service ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับ Customer Experience ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็ว แม่นยำ และบริการที่เป็นส่วนตัว ซึ่งแพลตฟอร์ม AI Customer Service ชั้นนำทั้ง 16 รายชื่อข้างต้น ก็แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของโซลูชันที่ธุรกิจสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระงานทีมซัปพอร์ต การสร้างประสบการณ์แบบเรียลไทม์ หรือการวิเคราะห์ Insight ของลูกค้าเพื่อพัฒนากลยุทธ์ในอนาคต


และสำหรับองค์กรในประเทศไทยที่กำลังมองหาโซลูชันที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ Pain Point ของทีมงานได้จริง พร้อมรองรับภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง HelloJenie แชตบอต AI สำหรับธุรกิจ จากเจโนไซส์ คือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความสามารถในการทำงานเสมือนผู้ช่วยประจำทีม ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติ การสรุปงาน การสร้าง To-do list หรือการเชื่อมต่อกับ LINE ได้ทันที ช่วยลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้าง CX ที่ราบรื่นกว่าที่เคย ทดลองใช้งานฟรีได้เลยวันนี้ที่ LINE: @hellojenie

Loading...

ร่วมเปิดกล่องโอกาส
แห่งอนาคตด้วยกัน

Contact

Brief Us

ง่ายและรวดเร็ว
เราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

facebook chat

คุยกับทีมฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.

mobile

โทรติดต่อฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.