< Back

เผย 7 เคล็ดลับออกบูธให้ปัง ดึงคนเข้าแบรนด์ เก็บ Lead ได้จริง

AD
โดย:Jenosize.com
share224

ออกบูธให้ปัง ด้วย 7 เคล็ดลับสร้างแบรนด์และ Lead คุณภาพ


ทุกตารางเมตรของบูธในงานแสดงสินค้าและอีเวนต์ เปรียบเสมือน “สนามแข่งขัน” ที่ผู้ประกอบการต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์ออกบูธที่ชัดเจน เพื่อดึงดูดสายตา สร้างความประทับใจ และเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็น Lead ที่พร้อมต่อยอดสู่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ การมีเพียงบูธสวยงามจึงอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องมีการเล่าเรื่องที่ชัดเจน กิจกรรมที่ดึงดูด และระบบที่รองรับการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วย



ทำไมการออกบูธยังคงสำคัญในยุคดิจิทัล ?


แม้พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้น แต่การออกบูธก็ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อแบรนด์ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้


สามารถสร้าง Brand Awareness ได้ในวงกว้าง

บูธจัดแสดงสินค้าหรือโปรโมตธุรกิจที่ได้รับการออกแบบมาอย่างมืออาชีพ เป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนได้เห็น ได้สัมผัส และได้พูดคุยกับแบรนด์โดยตรง ซึ่งความรู้สึกจริงที่เกิดขึ้นจากการได้สัมผัสสินค้าหรือทดลองใช้บริการ มักสร้างความทรงจำที่ดีกว่าการเห็นเพียงผ่านหน้าจอ


เป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาและการปิดการขา

ในหลายกรณี ผู้เข้าร่วมงานอีเวนต์มีเจตนาที่จะค้นหาสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ดังนั้น หากธุรกิจมีบูธที่พร้อมนำเสนอสินค้าและตอบคำถามของพวกเขาได้ทันที ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายตรงนั้นได้มากขึ้น


เป็นโอกาสที่ดีที่ในการสร้าง Connection

งานอีเวนต์ไม่ใช่เพียงพื้นที่ขายสินค้าหรือบริการอย่างเดียว แต่ยังเป็นเวทีในการพบปะพันธมิตร คู่ค้า และเครือข่ายใหม่ ๆ ที่อาจนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย

 

7 เคล็ดลับที่ผู้ประกอบการต้องรู้ก่อนออกบูธให้ปัง


1. วางเป้าหมายให้ชัดก่อนเริ่มออกแบบบู

การกำหนดเป้าหมายนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ไม่ว่าคุณจะอยากสร้าง Brand Awareness เพิ่มยอดขาย หรือเก็บ Lead เพื่อทำ CRM ต่อไป หากสามารถวางเป้าหมายได้อย่างชัดเจนก็จะช่วยให้การออกแบบบูธเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


2. ออกแบบบูธให้เล่าเรื่องแบรนด์ได้ใน 5 วินาที

ผู้เข้าชมงานมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการตัดสินใจว่าจะหยุดอยู่ที่บูธของคุณหรือไม่ ดังนั้น เคล็ดลับออกบูธให้ปังคือต้องสามารถสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วภายใน 5 วินาที เช่น การใช้แสง สี โลโก้ และ Key Message ที่ช่วยดึงดูดสายตาและสร้างการจดจำทันที


3. ใช้เทคโนโลยีสร้าง Interaction

เทคโนโลยีอย่าง AR/VR, Interactive Screen หรือ QR Code Scan-to-Win สามารถช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าชมบูธได้อย่างน่าทึ่ง เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นการทำให้กลุ่มเป้าหมายได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ สร้างความสนุกสนาน นอกจากจะทำให้การออกบูธของคุณดูแตกต่างจากคู่แข่งแล้ว ยังเป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าต่อในอนาคตได้อีกด้วย


4. เตรียมทีมให้เป็นเหมือน Brand Ambassador ที่น่าเชื่อถือ

พนักงานประจำบูธต้องไม่ใช่แค่มีหน้าที่ยืนแจกโบรชัวร์เท่านั้น แต่ควรทำหน้าที่เสมือน Brand Ambassador ที่เข้าใจแบรนด์อย่างลึกซึ้ง กล่าวคือ สามารถตอบคำถาม แนะนำสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้เข้าชมบูธได้ ดังนั้น อีกหนึ่งเทคนิคออกบูธจึงเป็นการลงทุนฝึกอบรมทีมงาน เพื่อเพิ่มคุณค่าของแบรนด์ในสายตาลูกค้า


5. วางระบบเก็บข้อมูลลูกค้าให้แม่นยำ เพื่อเก็บ Lead คุณภาพสู

การจะออกบูธให้ปังได้นั้น ไม่ได้จบแค่การดึงคนเข้ามา แต่ต้องมีระบบเก็บข้อมูลลูกค้าที่เป็นระบบ เช่น การใช้ Lead Form หรือการเชื่อมต่อกับ CRM Software เพื่อให้ได้ Lead ที่มีคุณภาพสูง พร้อมนำไปวิเคราะห์และต่อยอดแคมเปญการตลาดในครั้งถัดไป


6. สร้าง Magnet Point ให้คนอยากเข้ามา

ควรสร้างจุดดึงดูดที่โดดเด่น เช่น การมี Interactive Game ของรางวัลสุดพิเศษ หรือ Photo Booth ที่เปิดโอกาสให้คนเข้ามามีส่วนร่วมและแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดียได้ จะช่วยทำให้บูธของคุณเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น และเพิ่มจำนวนผู้เข้ามาเยี่ยมชมโดยอัตโนมัติ


7. อย่าลืม Follow-up หลังจบงาน

การ Follow-up ผลลัพธ์หลังจบงานถือเป็นกลยุทธ์ออกบูธที่มักถูกมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล ข้อความ หรือโทร. ติดตามผลหลังงาน นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์มีความใส่ใจแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับลูกค้าได้ด้วย



Case Study: Traveloka @ Thailand Event


หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการวางเทคนิคออกบูธอย่างรอบด้าน คือ การจัดบูธของ Traveloka ในงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเจอโจทย์ที่ท้าทายจากพื้นที่บูธเพียง 30 ตารางเมตร ที่มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก แต่ด้วยการวางแผนเชิงสร้างสรรค์และการใช้กิจกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ บูธของ Traveloka จึงสามารถดึงดูดผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างต่อเนื่อง


สำหรับงานนี้ เจโนไซส์ได้รับความไว้วางใจจาก Traveloka ให้ช่วยออกแบบกิจกรรมที่ผสมผสานความสนุกสนานและการตลาดเข้าด้วยกัน เช่น


  • เกมชิงรางวัลและส่วนลดพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเข้ามามีส่วนร่วม
  • กิจกรรมถ่ายภาพกับเซเลบและมุมถ่ายรูปสุดครีเอทีฟ ที่เอื้อต่อการแชร์บนโซเชียลมีเดีย
  • การจัดการ Interaction ที่เป็นระบบ ทำให้แม้พื้นที่จำกัดก็ยังคงสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำได้


ผลลัพธ์ที่ได้คือ บูธ Traveloka สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมได้มากถึง 200 คนต่อวัน ตลอดระยะเวลา 3 วัน ของงาน ถือเป็นการใช้เคล็ดลับออกบูธที่เอาชนะข้อจำกัดของพื้นที่ และเปลี่ยนบูธขนาดเล็กให้กลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมาก สร้างทั้ง Brand Awareness และ Lead ที่มีคุณภาพอย่างชัดเจน

 


ดังนั้น การออกบูธให้ปังจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของการออกแบบที่สวยงาม แต่คือการวางกลยุทธ์ออกบูธที่ครบวงจร ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย การใช้เทคโนโลยี การเตรียมทีม ไปจนถึงการเก็บข้อมูลและการติดตามผลภายหลัง หากผู้ประกอบการ SME ธุรกิจ Retail หรือแม้แต่องค์กรภาครัฐ ต้องการใช้บูธเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สร้างผลลัพธ์ได้จริง การนำเคล็ดลับออกบูธทั้ง 7 ข้อข้างต้นนี้ไปปรับใช้ จะช่วยให้แบรนด์สามารถดึงดูดผู้เข้าชมงานและเก็บ Lead ที่มีคุณภาพได้มากขึ้น พร้อมต่อยอดสู่การเติบโตในระยะยาว


สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาพาร์ตเนอร์ด้าน Event Marketing และการจัดการอีเวนต์ครบวงจร เจโนไซส์เป็นบริษัทรับจัดงานอีเวนต์ที่พร้อมช่วยออกแบบบูธและสร้างประสบการณ์อีเวนต์ที่แตกต่าง ด้วยการผสานเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัล เพื่อผลลัพธ์ที่จับต้องได้และยั่งยืน กรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเราได้เลยวันนี้

Loading...

ร่วมเปิดกล่องโอกาส
แห่งอนาคตด้วยกัน

Contact

Brief Us

ง่ายและรวดเร็ว
เราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

facebook chat

คุยกับทีมฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.

mobile

โทรติดต่อฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.