Event Marketing คืออะไร ? กลยุทธ์สร้างแบรนด์ผ่านประสบการณ์
ในยุคดิจิทัล ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายและความสนใจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้และเป็นรูปธรรมจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ “Event Marketing” หรือ “การตลาดผ่านงานอิเวนต์” คือหนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์แนวคิดดังกล่าว โดยเป็นการนำเสนอแบรนด์ สินค้า หรือบริการผ่านกิจกรรมที่มีการมีส่วนร่วมจากผู้เข้าร่วมจริง ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความจดจำ และความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมาย
Event Marketing คืออะไร ?
Event Marketing คือ กระบวนการวางแผน จัดการ และสื่อสารแบรนด์ผ่านกิจกรรมหรืออิเวนต์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) ความผูกพัน (Engagement) และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในกลุ่มผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับลูกค้า
ส่วน Event Marketing ทำอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น
- การเปิดตัวสินค้า (Product Launch)
- งานแสดงสินค้า (Trade Show)
- เวิร์กช็อป หรือสัมมนา (Workshop/Seminar)
- อิเวนต์เชิงประสบการณ์ (Experiential Event)
- การจัดบูทร่วมในงานมหกรรมต่าง ๆ
- การแข่งขันหรือกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย
ความสำคัญของ Event Marketing คืออะไร ?
ธุรกิจในยุคปัจจุบันไม่สามารถอาศัยการโฆษณาเพียงอย่างเดียวเพื่อดึงดูดลูกค้าได้อีกต่อไป ดังนั้น การสร้างประสบการณ์ที่ “สัมผัสได้จริง” คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้ โดยความสำคัญของ Event Marketing คือ
- สร้างความแตกต่างให้แบรนด์ท่ามกลางการแข่งขัน ท่ามกลางสื่อที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูล การจัดอิเวนต์ที่ตอบโจทย์จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำและสร้างภาพลักษณ์เฉพาะตัว
- กระตุ้นการมีส่วนร่วมและความรู้สึกผูกพัน อิเวนต์ที่ออกแบบมาอย่างดีจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์ เสมือนได้เป็น “เจ้าของ” ประสบการณ์นั้น ๆ จริง ๆ
- ได้เก็บข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการลงทะเบียน ตอบแบบสอบถาม หรือการติดตามพฤติกรรมในงาน ทำให้แบรนด์สามารถเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- สร้างโอกาสทางการขายแบบเรียลไทม์ Event Marketing ไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าในช่วงกิจกรรมเท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้ทีมขายเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายโดยตรงด้วย
- สร้างความน่าเชื่อถือ (Credibility) ให้แก่องค์กร การจัดอิเวนต์อย่างมืออาชีพจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ในสายตาลูกค้า และสร้างความไว้วางใจในระยะยาว
ประเภทของ Event Marketing มีอะไรบ้าง ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ ?
Event Marketing ยุคใหม่ไม่ใช่แค่การจัดอิเวนต์แบบเดิม ๆ อีกต่อไป แต่ธุรกิจสามารถประยุกต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันได้หลายรูปแบบ ดังนี้
Brand Activation
เป็นการสร้างกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะเพื่อกระตุ้นการรับรู้และสร้างความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับแบรนด์ เช่น การตั้งบูทให้ทดลองสินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือจัดกิจกรรมกลางแจ้งที่ดึงดูดคนให้เข้าร่วมและแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย Event Marketing ตัวอย่าง อาทิ กิจกรรม “ดริปกาแฟกลางสวน” ของแบรนด์กาแฟที่ให้ลูกค้าได้ทดลองชิมและเรียนรู้กระบวนการชงกาแฟด้วยตนเอง
Hybrid Event
กิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างการจัดงานแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้ชมได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การจัดสัมมนาในโรงแรม พร้อมถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Zoom หรือ Facebook Live รวมถึงเปิดให้มีการโต้ตอบแบบเรียลไทม์จากผู้ชมทางบ้าน ข้อดีของ Event Marketing รูปแบบนี้ คือ สามารถขยายฐานผู้เข้าร่วมได้อย่างไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ พร้อมเก็บข้อมูลเชิงลึกและวัดผลได้ง่ายผ่านระบบดิจิทัล
Experience Marketing
เน้นการออกแบบกิจกรรมที่ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกมีส่วนร่วมและเชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างแท้จริง เช่น การจัดโชว์ที่จำลองการใช้งานสินค้าในชีวิตจริง หรือสร้างบูธที่ออกแบบเป็นธีมเฉพาะเพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่ผู้ร่วมงาน อาทิ บูทจำลองร้านอาหารญี่ปุ่นของแบรนด์เครื่องปรุง ที่ให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองทำเมนูง่าย ๆ ด้วยตนเอง เพื่อให้พวกเขาสามารถจดจำสินค้าได้
Case Study Event Marketing ตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจจากการจัดอิเวนต์
การประยุกต์ใช้ Event Marketing อย่างมีกลยุทธ์สามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภคในระดับประเทศ ตัวอย่างจากภาครัฐสองหน่วยงานต่อไปนี้ คือภาพสะท้อนของการใช้งานจริงที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขาย การรับรู้แบรนด์ และการสื่อสารเป้าหมายกับประชาชนในวงกว้าง
Offline 2 Online Expo
หนึ่งใน Event Marketing ตัวอย่างที่โดดเด่น คือ การจัดงาน Offline 2 Online Expo โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ผ่านมหกรรมแสดงสินค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร โดยหมุนเวียนการจัดงานในทุกภูมิภาคทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก และอีสาน
เจโนไซส์ ซึ่งรับหน้าที่ดูแลการวางแผนและบริหารงานอีเวนต์ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ใช้แนวทาง Event Marketing ที่ผสมผสานทั้งกลยุทธ์ออนกราวด์ (On-ground Activation) และออนไลน์ เพื่อกระตุ้นความสนใจอย่างกว้างขวาง
ผลลัพธ์ที่ได้
การจัดกิจกรรมมีความครอบคลุมทั้งด้านประสบการณ์หน้างานและการประชาสัมพันธ์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งผลให้ผู้คนจากหลากหลายภูมิภาคให้ความสนใจและเดินทางมาร่วมงานอย่างหนาแน่น ยอดการใช้จ่ายในงานทะลุเป้าหมายจาก 30 ล้านบาท เป็น กว่า 80 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพของ Event Marketing ในการผลักดันยอดขายและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างแท้จริง
Ministry of Science Innovation Showcase
อีกหนึ่งกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ Event Marketing เพื่อสร้างมูลค่าเชิงนวัตกรรม คือการจัดงานแสดงสินค้าโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มศักยภาพสินค้าและบริการ งานจัดขึ้นในพื้นที่กลางแจ้งใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีการจัดแสดงสินค้ากว่า 108 รายการที่มีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งหลายรายการต้องการพื้นที่ในการสาธิตการใช้งานจริงให้เห็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจน
ผลลัพธ์ที่ได้
เจโนไซส์ นำประสบการณ์ด้าน Exhibition Management มาวางโครงสร้างพื้นที่เพื่อการแสดงสินค้าอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้พื้นที่ในการสาธิต เช่น เครื่องมือเก็บผลไม้และนวัตกรรมการเกษตรอื่น ๆ ทำให้ผู้เข้าชมสามารถ “สัมผัส” ศักยภาพของสินค้าได้อย่างเต็มรูปแบบ เกิดเป็นประสบการณ์ที่ยกระดับภาพลักษณ์ของนวัตกรรมไทย และกระตุ้นให้เกิดการต่อยอดเชิงธุรกิจในอนาคต
ข้อควรคำนึงในการทำ Event Marketing มีอะไรบ้าง ?
แม้ Event Marketing คือกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่การดำเนินงานที่ขาดการวางแผนหรือละเลยรายละเอียดเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของกิจกรรมได้โดยตรง การเตรียมความพร้อมในทุกขั้นตอนจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในระยะยาว
เพื่อให้ Event Marketing ดำเนินไปอย่างราบรื่นและตอบโจทย์ทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
1. การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น เพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ เพิ่มยอดขายในระยะสั้น หรือสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มลูกค้าใหม่ จะช่วยกำหนดทิศทางของกิจกรรม ทั้งในด้านรูปแบบ เนื้อหา และวิธีวัดผลได้ตรงจุด
2. การเลือกสถานที่และช่วงเวลาให้เหมาะสม
สถานที่จัดงานควรตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกของกลุ่มเป้าหมาย และความเหมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม เช่น งานเปิดตัวสินค้าอาจเหมาะกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีคนสัญจรหนาแน่น ในขณะที่งานเชิงวิชาการอาจเหมาะกับห้องสัมมนาที่มีระบบสนับสนุนครบถ้วน ทั้งนี้ ควรวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้ทีมมีเวลาเตรียมงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การโปรโมตก่อนวันงานอย่างครอบคลุม
การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายก่อนวันงานเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ ไม่ว่าจะผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การทำแคมเปญออนไลน์ การเชิญชวนผ่านอีเมล หรือการโปรโมตในพื้นที่จริง ทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อจำนวนผู้เข้าร่วมและคุณภาพของผู้ชมที่มาร่วมกิจกรรม
4. การเก็บข้อมูลและประเมินผลหลังจบงาน
การเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วม ความพึงพอใจ หรือพฤติกรรมการมีส่วนร่วมจะช่วยให้สามารถประเมินความสำเร็จของกิจกรรม และนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วางแผน Event Marketing ครั้งถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การปรับรูปแบบกิจกรรม หรือพัฒนาประสบการณ์ในแต่ละ Touchpoint ให้เหมาะสมกับ Insight ที่ได้มา
5. การเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ไม่คาดฝัน
แม้การวางแผนจะรอบคอบเพียงใด แต่อิเวนต์จริงย่อมมีความไม่แน่นอน เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระบบแสงเสียงขัดข้อง หรือจำนวนผู้ร่วมงานเกินคาด การจัดทำแผนสำรอง (Backup Plan) และเตรียมทีมงานให้สามารถปรับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาคุณภาพของประสบการณ์โดยรวม
Event Marketing ไม่ใช่เพียงแค่การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความคึกคัก แต่เป็นกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดที่มีพลังในการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน ช่วยให้องค์กรสามารถสื่อสารคุณค่า (Value Proposition) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่า “คำพูด” การใช้ Event Marketing อย่างมีกลยุทธ์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่าง และขับเคลื่อนแบรนด์ไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาพาร์ตเนอร์มืออาชีพในการจัดงาน Event ที่สามารถออกแบบประสบการณ์ได้ตรงจุด สร้างความประทับใจ และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ทีมงานเจโนไซส์ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอนอย่างครบวงจร กรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเราได้เลยวันนี้ที่หน้าเว็บไซต์
Loading...
