< Back

CRM Software คืออะไร ? พร้อมแนะนำ 5 เครื่องมือดังที่ห้ามพลาด

AD
โดย:Jenosize.com
share22

รวมลิสต์ 5 CRM Software แนะนำ แบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจคุณ ?


การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management หรือ CRM) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ในระยะยาว ซึ่งปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยีที่เรียกว่า CRM Software ตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลลูกค้าและกระบวนการขายอย่างเป็นระบบ โดยหลายองค์กรเลือกที่จะปรึกษา Tech Agency ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางกลยุทธ์และเลือกใช้ระบบ CRM ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองมากที่สุด



CRM Software คืออะไร และทำไมธุรกิจต้องใช้ ?


Customer Relationship Management Software หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า CRM Software คือ เครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การติดตามการขาย การตลาด ไปจนถึงการให้บริการหลังการขาย โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าโดยรวม


สำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล CRM Software คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือองค์กรขนาดใหญ่ การมีระบบ CRM Software ที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า อันจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและการรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว

 

ประโยชน์หลักของ CRM Software คืออะไร ?


การจัดการข้อมูลลูกค้าแบบรวมศูนย์

CRM Software ช่วยให้ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ในที่เดียว ทำให้ทุกฝ่ายในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างทีมขาย การตลาด และฝ่ายบริการลูกค้า


เพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาด

การใช้ CRM Software ช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามโอกาสในการขาย (Sales Opportunities) และบริหารจัดการ Pipeline ได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ากลยุทธ์ทางการตลาดอัตโนมัติ เช่น Email Marketing, Lead Scoring และ Customer Segmentation เพื่อเพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายให้เป็นลูกค้าจริงได้อีกด้วย


ปรับปรุงการให้บริการลูกค้า

การบริการหลังการขายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า โดยระบบ CRM Software จะช่วยให้ทีมงานสามารถติดตามเคสของลูกค้า บันทึกประวัติการสนทนา และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้าและเพิ่มความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหา


ระบบ Automation ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน

CRM Software มาพร้อมกับระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน เช่น การส่งอีเมลติดตามผลอัตโนมัติ การตั้งค่า Reminder ให้กับทีมขาย หรือการสร้างรายงานแบบเรียลไทม์ ลดการใช้ทรัพยากรบุคคลในการทำงานที่ไม่จำเป็น ทำให้ทีมสามารถไปโฟกัสที่งานอื่น ๆ ได้มากขึ้น


วิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจ

CRM Software มีฟีเจอร์ด้าน Analytics และ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ประเมินแนวโน้มการขาย และคาดการณ์โอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์การขายและการตลาดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 

เปรียบเทียบข้อดีของ 5 CRM Software แนะนำที่นักการตลาดไม่ควรพลาด


1. Salesforce

Saleforce เป็นแพลตฟอร์ม CRM Software ชั้นนำระดับโลกที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบถ้วนและสามารถปรับแต่งได้สูง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการโซลูชัน CRM ที่ครบวงจร


จุดเด่น
  • ฟีเจอร์ครบวงจร รองรับ Sales, Service, Marketing, Commerce และ AI ที่ช่วยคาดการณ์แนวโน้มการขาย
  • Ecosystem ที่แข็งแกร่ง สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่าน AppExchange
  • AI และ Automation ขั้นสูง ใช้ Einstein AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่วยให้ทีมขายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • รองรับธุรกิจขนาดใหญ่ มีโซลูชันที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีโครงสร้างซับซ้อน


ข้อจำกัด
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
  • อินเทอร์เฟซมีความซับซ้อนและต้องอาศัยการฝึกอบรมเพื่อใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ


2. HubSpot CRM

HubSpot CRM เป็นอีกหนึ่ง CRM Software น่าสนใจ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง เนื่องจากใช้งานง่ายและมีแผนใช้งานฟรีที่ให้ฟีเจอร์พื้นฐาน


จุดเด่น
  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มี UI ที่เป็นมิตร ไม่ต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้
  • มีแผนใช้งานฟรี เหมาะสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นและต้องการ CRM Software ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เชื่อมต่อกับเครื่องมือการตลาดได้ดี รองรับการทำ Email Marketing, Lead Tracking และ Automation
  • รองรับการผสานรวม (Integration) ได้หลากหลาย สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Gmail, Slack, WordPress


ข้อจำกัด
  • หากต้องการฟีเจอร์ที่ลึกขึ้น เช่น Sales Automation หรือ Advanced Reporting อาจต้องจ่ายเพิ่ม
  • ไม่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ แม้จะมีฟีเจอร์ที่ดี แต่ไม่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้เท่ากับ Salesforce หรือ Microsoft Dynamics


3. Zoho CRM

Zoho CRM เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ฟีเจอร์ครบครันในราคาที่ย่อมเยากว่าแพลตฟอร์มระดับองค์กร คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการฟีเจอร์ครบถ้วนในราคาที่เข้าถึงได้


จุดเด่น
  • ฟีเจอร์หลากหลายและราคาถูก มีระบบ AI, Automation, Workflow, และการวิเคราะห์ข้อมูล
  • AI ช่วยคาดการณ์แนวโน้มการขาย Zia AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขาย
  • รองรับการปรับแต่งได้สูง สามารถตั้งค่าตามความต้องการของธุรกิจ
  • รองรับหลายแพลตฟอร์ม ใช้งานได้ทั้งบนเว็บและมือถือ


ข้อจำกัด
  • มีฟีเจอร์เยอะ ทำให้อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้
  • Integration อาจไม่หลากหลายเท่า Salesforce หรือ HubSpot


4. Microsoft Dynamics 365

Microsoft Dynamics 365 เป็นหนึ่งใน CRM Software แนะนำ เนื่องจากสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ของ Microsoft ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ Microsoft Ecosystem


จุดเด่น
  • ทำงานร่วมกับ Microsoft ได้ดี เชื่อมต่อกับ Office 365, Teams และ Power BI ได้อย่างราบรื่น
  • รองรับ AI และ Business Intelligence (BI) วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึกเพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย
  • สามารถปรับแต่งระบบ CRM ให้เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภทได้


ข้อจำกัด
  • มีค่าใช้จ่ายในการตั้งค่าและดูแลระบบ
  • หากไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ Microsoft อยู่แล้ว อาจไม่คุ้มค่านัก


5. Pipedrive

Pipedrive เป็น CRM Software ที่เน้นกระบวนการขายโดยเฉพาะ ช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามดีลและบริหาร Pipeline ได้ง่าย


จุดเด่น
  • โฟกัสที่กระบวนการขาย ออกแบบมาให้ทีมขายสามารถติดตามดีลและโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย มี UI ที่เรียบง่ายและเน้น Workflow ของการขาย
  • มีระบบ Automation และ AI ช่วยแนะนำแนวทางปิดดีล ให้ทีมขายทำงานได้เร็วขึ้น


ข้อจำกัด
  • ขาดฟีเจอร์ด้านการตลาดและการบริการลูกค้า ไม่เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการ CRM แบบครบวงจร
  • เครื่องมือวิเคราะห์ไม่ลึกเท่ากับ Salesforce หรือ Microsoft Dynamics



ตัวอย่างการใช้งานจริงของ CRM Software ที่น่าสนใจในธุรกิจ


  • ธุรกิจ E-commerce สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและนำเสนอสินค้าได้ตรงกับความต้องการผ่านการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) เช่น การส่งอีเมลโปรโมชันที่เหมาะกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า หรือการแนะนำสินค้าที่คล้ายกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ


  • ธุรกิจ B2B CRM ช่วยให้สามารถติดตามสถานะของลูกค้าได้ดีขึ้น เช่น การจัดการ Lead การติดตามโอกาสทางธุรกิจ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ยอดขาย



  • ธุรกิจค้าปลีก สามารถใช้ CRM ในการเก็บข้อมูลลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นประวัติการซื้อ คะแนนสะสม หรือพฤติกรรมการใช้จ่าย เพื่อปรับปรุงการให้บริการและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น ระบบสมาชิก หรือการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์

 

CRM Software ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการเก็บข้อมูลลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรึกษา Tech Agency ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Loading...

ร่วมเปิดกล่องโอกาส
แห่งอนาคตด้วยกัน

Contact

Brief Us

ง่ายและรวดเร็ว
เราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

facebook chat

คุยกับทีมฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.

mobile

โทรติดต่อฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.