< Back

รู้จัก ESG แนวทางสู่ความยั่งยืน พร้อมเผย 5 Green Technology

AD
โดย:Jenosize.com
share35

ESG กับ Green Technology โอกาสใหม่ของ SME และธุรกิจดิจิทัล


เมื่อวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นวาระเร่งด่วนระดับโลก ธุรกิจทุกภาคส่วนต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อกำหนดของรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคด้วย แนวคิด ESG (Environmental, Social, Governance) จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในระยะยาว



ESG คืออะไร และสำคัญอย่างไรในภาคธุรกิจ ?


ESG ย่อมาจาก Environmental, Social และ Governance ซึ่งเป็นแนวคิดที่องค์กรทั่วโลกนำมาใช้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และหลักธรรมาภิบาล (Governance) การปฏิบัติตามแนวทาง ESG ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

 

ESG กับการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบัน


ในยุคที่เทรนด์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้รับความสนใจมากขึ้น ผู้ประกอบการ SME ธุรกิจค้าปลีก (Retail) และองค์กรภาครัฐ ล้วนต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวทาง ESG โดยเฉพาะด้าน Environmental ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจึงกลายเป็นหัวใจหลักในการช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างยั่งยืน


Green Technology หรือเทคโนโลยีสีเขียว จึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐาน ESG โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประหยัดพลังงาน และลดของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

รู้จัก 5 Green Technology นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนโลก


1. พลังงานสะอาด (Renewable Energy)

เทคโนโลยีพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในเสาหลักของ Sustainable Technology โดยการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและหันมาใช้แหล่งพลังงานที่หมุนเวียนได้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานชีวมวล ในปัจจุบัน เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและต้นทุนลดลง ทำให้ธุรกิจสามารถลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้น


สำหรับผู้ประกอบการ SME และภาคธุรกิจ การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารหรือโรงงานสามารถช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว และยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย


2. เทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage & Batteries)


หนึ่งในความท้าทายของพลังงานหมุนเวียน คือ ความไม่แน่นอนของแหล่งพลังงาน เช่น แสงอาทิตย์ที่มีเฉพาะช่วงกลางวัน หรือพลังงานลมที่ไม่สม่ำเสมอ ระบบกักเก็บพลังงานจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้สามารถใช้พลังงานสะอาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ปัจจุบัน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และแบตเตอรี่โซลิดสเตต กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในการใช้งานทั้งในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม ธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนพลังงาน สามารถลงทุนในระบบกักเก็บพลังงานเพื่อใช้ในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าสูง หรือใช้เป็นพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉินได้


3. นวัตกรรมการก่อสร้างสีเขียว (Green Building)

อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ใช้ทรัพยากรจำนวนมากและปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง การนำนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่าง Green Technology มาใช้ในการก่อสร้างจึงเป็นแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น


  • การใช้วัสดุที่ยั่งยืน เช่น ไม้รีไซเคิล คอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ หรือฉนวนกันความร้อนจากวัสดุธรรมชาติ
  • การออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน เช่น ระบบระบายอากาศอัจฉริยะ กระจกสะท้อนความร้อน หรือระบบน้ำรีไซเคิล
  • อาคารที่มีการรับรองมาตรฐานสีเขียว เช่น LEED หรือ EDGE ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์และดึงดูดนักลงทุนที่ใส่ใจด้าน ESG


4. การบริหารจัดการของเสียและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Waste Management & Circular Economy)

แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นกลยุทธ์ Sustainable Technology ที่ช่วยลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในภาคธุรกิจ โดยเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) การรีไซเคิล (Recycle) และการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์


ตัวอย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีกสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกโดยใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือร้านอาหารสามารถลดขยะอินทรีย์ด้วยการนำเศษอาหารไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือพลังงานชีวภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการกำจัดของเสียแล้ว ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย


5. ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Transportation)

อุตสาหกรรมขนส่งเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ เทคโนโลยีการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษ เช่น


  • ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดมลพิษทางอากาศ
  • ระบบขนส่งสาธารณะอัจฉริยะ เช่น รถไฟฟ้าและรถโดยสารพลังงานสะอาดที่ช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน
  • โซลูชันโลจิสติกส์สีเขียว เช่น การใช้ AI ในการบริหารเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและลดของเสียจากการขนส่ง



Case Study: ตัวอย่างการปฏิวัติธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวคิด Green Technology


Tesla เปิดตัวผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

Tesla ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อย่าง Powerwall ระบบกักเก็บพลังงานสำหรับครัวเรือน และ Solar Roof แผงโซลาร์เซลล์แบบบูรณาการที่ช่วยให้บ้านสามารถผลิตและใช้พลังงานสะอาดได้เอง แนวคิดของ Tesla จึงสะท้อนให้เห็นถึงอนาคตของอุตสาหกรรมที่พึ่งพาพลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ


Patagonia ธุรกิจเสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน

Patagonia เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและออร์แกนิกในการผลิตเสื้อผ้า รวมถึงส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ให้นานขึ้นผ่านโครงการ “Worn Wear” ซึ่งช่วยลดของเสียในอุตสาหกรรมแฟชั่น นอกจากนี้ Patagonia ยังเป็นผู้นำด้านธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย

 

การปรับตัวตามแนวทาง ESG ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในสายตาลูกค้าและผู้ลงทุน ดังนั้น การใช้ Tech Solution สำหรับธุรกิจ ที่มุ่งเน้นด้าน ESG และ Green Technology เหล่านี้ สามารถเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกสู่การสร้างความยั่งยืนที่แท้จริง

Loading...

ร่วมเปิดกล่องโอกาส
แห่งอนาคตด้วยกัน

Contact

Brief Us

ง่ายและรวดเร็ว
เราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

facebook chat

คุยกับทีมฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.

mobile

โทรติดต่อฝ่ายขาย

ให้บริการ จันทร์ถึงศุกร์
9:00 น. - 19:00 น.